ไฟกระชาก คือ การที่แรงดันไฟฟ้าเกิดความปิดปกติ กล่าวคือเกิน 220V ภายในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังทำงานอยู่ได้
สาเหตุของการเกิดไฟกระชาก เกิดขึ้นได้จากหลายอย่างด้วยกันไม่ว่าจะเป็น
- ฟ้าร้อง, ฟ้าผ่า, สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า, การวางระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน, การเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเยอะ ๆ
สังเกตได้จาก
- เวลาที่เราเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือตู้เย็น โดยกระแสไฟที่ผิดปกตินั้นจะมาทางสายไฟทั้ง L, N, G สายสัญญาณต่าง ๆ เช่น สาย LAN, สายโทรศัพท์, สายจานดาวเทียม
ซึ่งเมื่อเกิดไฟกระชากขึ้น อาจสร้างความเสียหาย หรือทำให้อายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ สั้นลงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาด้วย นั่นทำให้ในปลั๊กไฟรุ่นใหม่ ๆ จึงได้มีการติดติดตั้ง ระบบกันไฟกระชาก เสริมเข้ามานั่นเอง
ไฟกระชาก เรื่องไม่เล็กที่ทำให้คอมพิวเตอร์พัง ป้องกันได้อย่างไร
สาเหตุของการเกิดกระแสไฟฟ้าผิดปกติ มีหลายอย่าง สาเหตุที่เราสามารถพบได้บ่อย ๆ คือ
- ไฟตก คือ แรงดันไฟฟ้าที่มาถึงเราต่ำกว่า 220V ทำการจ่ายไฟไม่พอ ไฟติด ๆ ดับ ๆ ด้วยอาจมาจากจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ามีมากกว่า กระแสไฟฟ้าที่ถูกจ่ายออกมา
- ไฟเกิน คือ แรงดันไฟฟ้าที่มาถึงเรา มากกว่า 220V จะเกินแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ค่อยส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านเท่าไร
- ไฟกระชาก คือ แรงดันไฟฟ้าที่มาแบบขาด ๆ เกิน ๆ 220 v อาจจะมีกระแสไฟฟ้าเกินช่วงระยะเวลาหนึ่ง สาเหตุอาจจะมาจากการเดินสายไฟที่ผิดพลาด ระบบไฟฟ้าที่ไม่เสถียร สภาพอากาศที่เลวร้าย
การป้องกันในเบื้องต้นก็คือ
- อย่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้มากกว่ากระแสไฟฟ้าที่ได้รับ หากบ้านหรือบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ควรจะทำเรื่องขอกระแสไฟฟ้าจากหน่วยงานที่รับผิดชอบให้สามารถใช้ไฟได้เพียงพอ เมื่อเกิดสภาพอากาศแปรปรวนลมแรง ฝนตกหนัก ฟ้าร้อง ควรงดใช้ไฟฟ้า เพราะถ้าหากสภาพอากาศมีผลกระทบต่อการจ่ายไฟฟ้าจนทำให้เกิดไฟกระชาก จะเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ได้
วิธีป้องกันไม่ให้ได้รับผลกระทบจากไฟกระชาก
- สามารถใช้เครื่องสำรองไฟฟ้า ต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ เครื่องสำรองไฟฟ้าจะจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรองที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ให้กับคอมพิวเตอร์ ด้วยการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สำรองเก็บไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อเกิดปัญหาทางไฟฟ้าจนคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าจากแหล่งไฟฟ้าปกติได้ เครื่องสำรองไฟฟ้าจะเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแบตเตอรี่ให้กลายเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) แล้วจึงจ่ายไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ เมื่อเกิดไฟกระชากคอมพิวเตอร์จะไม่ดับในทันที กระแสไฟฟ้าจากเครื่องสำรองไฟฟ้าจะถูกจ่ายเข้าคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติ ทำให้มีเวลาที่จะบันทึกข้อมูลและปิดคอมพิวเตอร์ด้วยขั้นตอนปกติ
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก quickserv